cover

cover

1/26/13

♥♥How To♥♥ Love Sweet Love, I wanna be sweet!

สำหรับธีมฮาวทูนี้ที่เป็นสาวหวานเหมือนขนมหวานจึงได้แรงบันดาลใจมาจากขนมหวานน่ารักๆอย่าง"คัพเค้ก"
บวกกับใกล้เข้าสู่เดือนแห่งความรักแล้วก็เลยถือโอกาสแต่งลุคนี้ให้เข้ากับเทศกาลความรัก
โดยจับเอากลิ่นอายของความรักและความหวานในงานแต่งงาน (ฝันๆๆ)คู่กับสีสันของขนมหวาน

โดยลุคนี้เน้นความหวานแบบธรรมชาติ โดยหลักๆจะเน้นที่สีสันโทนชมพูขาวและความเป็นธรรมชาติ
(ไม่ขนตาไม่บิ๊กอาย)

มาดูกันค่ะว่าจะเป็นอย่างไร


เครื่องสำอางที่ใช้


Smashbox // photo finish 
Estee lauder // double wear star-in-place #warm creme 65
Etude // precious mineral BB cream bright fit #W24 
Impress // concealer 
Maybelline // clear smooth all in one #03
Laura mercier // translucent powder
Benefit // posie tint
M.A.C # well dressed
essence // bronzing powder #02
KATE // eyebrow mascara
KATE // eyeshadow eyebrow
NYX // eye primer 
Pigment #03 white pale
L'oreal // eyeliner # brown
Bobbi brown // no smudge mascara # black
Maybelline // the falsies
Maybelline // the magnum volum'express
Majolica Majorca // cream pencil liner
Urban Decay // naked
Sleek // i-divine #ultra matts V1
Canmake // lips concealer #02
etude // dear darling neon tint #03
etude // my lips #4
etude // my lips #8
M.A.C // dazzleglass #out for glamour


ขั้นตอนการแต่ง


1. ลงเบสเพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียนและเครื่องสำอางติดทน
2. ผสมบีบีกับรองพื้นเข้าด้วยกัน ทาให้ทั่วใบหน้า
3. กลบรอยคล้ำใต้ตาและสิววันนั้นของเดือนด้วยคอนซิลเลอร์

1. ใช้ posie tint ของ benefit แต้มสามจุดบริเวณโหนกแก้ม
2. เกลี่ยทิ้นท์ให้กลืนกับผิว
3. ลงแป้งฝุ่นแบบโปร่งแสงให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

1. คิ้วธรรมชาติที่ว่างเว้นจากการกันนานมากแล้ว
2. เขียนคิ้วด้วยที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น
3. ปัดมาสคาร่าคิ้วที่สีเดียวกับผม

สีอายชาโดว์ที่ใช้


sleek i divine ultrs matts v1

urban decay naked

1. ลงอายเบสให้ทั่วเปลือกตา
2. ทาอายชาโดว์สีชมพูกลีบบัวให้ทั่วเปลือก
3. ทาอายชาโดว์สีชมพูอ่อนทางตรงกึ่งกลางตาแล้วเบลนให้สีไล่กัน

1. เขียนขอบตาด้านในด้วยอายไลเนอร์แบบดินสอสีน้ำตาลทั้งบนและล่าง
2. เขียนอายไลเนอร์สีน้ำตาลแบบดินสอให้ชิดขอบตาบนมากที่สุด
3. ทาอายชาโดว์สี toasted จาก naked พาเลท ทับเส้นขอบตาที่เขียนไว้ก่อนหน้า


1. ใช้สี hustle จาก naked พาเลท คัดเข้าตาใหมีมิติมากขึ้น
2. ทาสี virgin จาก naked พาเลทบริเวณโหนกคิ้ว
3. ใช้พิกเม้นท์สีขาวมุกทาขอบตาล่าง
4. ดัดขนตาปัดมาสคาร่าให้เด้งสุดๆ (เพราะคอนเซ็บเราคือไม่ขนตาปลอมไม่บิ๊กอาย)

1. ใช้บรอนเซอร์สร้างกรอบหน้าและดั้งให้ดูโด่งขึ้น
2. ปัดแก้มด้วยสีชมพูหว๊านหวาน
3. ให้แปลง ทาแป้งผสมรองพื้น บริเวณสันจมูก โหนกแก้ม หน้าผากและคางแทนการใช้ไฮไลต์

1. ทาคอนซิลเลอร์ปากให้ทั่วขอบปากที่คล้ำ
2. ใช้ทิ้นท์สีชมพูทาด้านในของริมฝีปาก
3. ทาลิปสีชมพูให้ทั่วปาก (ใช้สีเบอร์ 4 กับ 8 ของอีทูดี้ทาผสมกัน)
4. ทากลอสมีชิมเมอร์สีชมพูบริเวณกึ่งกลางริมฝีปากบนและล่าง


รูปก่อนแต่งและหลังแต่งค่ะ



หน้าพร้อมก้อทำผมเปลี่ยนชุดรับเทศกาลแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงกันค้าาา














ขอลาไปด้วยภาพนี้
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชมนะคะ 
ขอให้มีความสุขกันในช่วงเทศกาลแห่งความรักที่จะมาถึงทุกๆคนค่ะ


1/4/13

♥♥Review♥♥ ลิปสติกของสาวผิวแทน


สวัสดีคะสาวๆทุกคน
นี่ถือว่าเป็นการเปิดกรุเครื่องสำอางครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้
และคงเป็นการรีวิวเต็มรูปแบบของลิปสติกที่มีไว้ครอบครอง

ซึ่งหลังจากที่ได้ทำรีวิวนี้ทำให้ เอตกใจมากว่าไม่คิดว่าตัวเองจะซื้อลิปสติกไว้เยอะเหมือนกัน..แถมสีก็ไม่ต่างกันอีก
ทำให้ได้คติสอนใจมากๆว่า ต่อไปนี้จะซื้อลิปสติกสีที่ชอบจริงๆเท่านั้น...(จะทำได้มั้ยเนี่ย อิอิ)

โอเคค่ะ..อยากที่ขึ้นหัวไว้ "เปิดกรุลิปสติกของสาวผิวแทน" แน่นอนค่ะว่าเอเป็นคนผิวสีเข้ม 
ทำให้สีลิปสติกที่ซื้อส่วนใหญ่ไม่เด่นไปเลย ก็กลืนไปกับผิวซะมาก
เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆดูกันว่ามีสีอะไรบ้างที่อยู่ในกรุของสาวผิวสีคนนี้




นี่คือลิปสติกทั้งหมดที่มีไว้ครอบครองคะ 35 แท่ง กับ 1 พาเลท
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนนะค่ะ ทั้งหมดนี้ซื้อเพราะความชอบส่วนตัวในเรื่องของสี เนื้อ แพ็คเกจ และแบรนด์ล้วนๆ
ทำให้อาจดูว่าสีออกมาคล้ายๆกัน โดยเอได้แบ่งกลุ่มสีออกเป็นกลุ่มๆนะค่ะ เพื่อความง่ายต่อการเทียบสี


ปากธรรมชาติปกติของเอคะ ปากจะไม่แดงไม่คล้ำอยู่กลางๆ แต่จะคล้ำบ้างตามมุมปากแล้วแต่อากาศค่ะ(จริงๆ)
เป็นคนปากไม่แห้งมากแต่ก็ไม่ได้ชุ่มชื่น จึงชอบใช้ลิปสติกเนื้อไม่แห้งไม่ครีมมี่เกินไป และเป็นคนไม่ค่อยเติมลิประหว่างวันคะ จึงทำให้ซื้อลิปสติกส่วนใหญ่เลือกที่ทนทานเป็นหลัก


กลุ่มแรก เป็นโทนสีนู้ด-น้ำตาลอ่อน
เป็นคนที่ช๊อบชอบลิปสีโทนนี้มาก และยังหาสีโทนนี้ต่อไป เพราะเป็นคนชอบการแต่งตามากกวาเน้นปากจึงพยายามหาสีลิปสติกที่ให้เข้ากับสีผิวมากที่สุด ทำให้ต้องซื้อโทนนี้ไว้หลายเฉดเพราะสีผิวขึ้นลงตลอดเวลาคะ

Revlon colorburst lipstick #070 Soft Nude
เป็นลิปสติกที่ไปได้มาตอนเที่ยวต่างประเทศ ตอนเห็นซื้อเพราะสีเลยคะ เพราะเคยเห็นกูรูต่างประเทศเค้ารีวิวตัวนี้ไว้เยอะ ไอเราก็อยากลอง ก็สอยมาเล่นบ้าง โทนสีโอเคคะ นู้ดป่วยไม่มาก แต่งหน้าหนักเบาเข้าได้หมด แต่เนื้อครีมมี่มากๆ มากจนไม่ชอบ และบางครั้งทายากคพถ้าปากไม่สุขภาพดีเรียบเนียนจริง ทาแล้วไม่สวยเลย และไม่ค่อยทนเท่าไหร่คะสำหรับลิปรุ่นนี้


ความทนทาน : 2 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 2 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 3 คะแนน


Etude Luciderarling fantastic rouge #11
สีนู๊ดไม่ป่วยที่ดูแล้วไม่ต่างจาก soft nude ของ revlon เลย เนื้อชุ่มชื่นมาก และทนใช้ได้เลยสำหรับเนื้อครีมมี่ขนาดนี้ แพ็คเกจทำออกมาได้น่ารักมากๆแต่เนื้อลิปค่อยข้างจะเลอะง่ายไปหน่อยเวลาใช้ต้องใช้ทิชชูเช็ดตลอดเวลา

ความทนทาน : 3.5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน

Bisous Bisous BB lipstick #4
เป็นตัวโปรดตัวนึงเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อลิปที่ไม่แห้งและไม่ชุ่มชื่นเกินไป กำลังดี สีที่ออกนู้ดส้มน้ำตาลๆนิด วันไหนตาเต็มทาตัวนี้จบ สวยกำลังดีมาก หรือวันไหนแต่งเบาๆทาตัวนี้ทับด้วยกรอสสีเข้มเบลนให้เข้ากัน เวิร์คมาก 

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน


Etude my lips #10
เป็นลิปตัวสิ้นคิดที่ใช้บ่อยมาก คิดอะไรไม่ออกหยิบตัวนี้มาคือจบ แม้วันไม่แต่งหน้าเลย (แล้วจะทาลิปทำไม) เป็นลิปที่สีเกือบตรงกับผิวมากๆ และราคาน่ารักมากๆแค่ 6000วอน เป็นตัวที่บีเอที่เกาหลีแนะนำให้ว่าเหมาะกับเรา และมันก็จริง แต่ความทนทานไม่น้อยตามราคาเลยคะ มันทนใช้ได้เลย ถ้าหมด(ซึ่งใกล้แล้ว) คงซื้อต่อทันที Must have เลยตัวนี้

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 5+++ คะแนน


Too cool for school #glam rock 02
ลูกรักอีกแท่งที่ขาดไปไม่ได้เหมือนกัน ลิปสีนู๊ดที่ครั้งแรกที่ลองเล่นที่เคาเตอร์คิดอยู่นานว่าจะซื้อดีมั้ย เพราะราคาก็แพงนะถ้าเทียบว่าเป็นแบรนด์เกาหลี แต่ด้วยสีที่นู๊ดส้มอมชมพูนิด และเนื้อที่แปลก(ในความคิดส่วนตัว) แบบอธิบายไม่ถูกจะแห้งก็ไม่แห้งจะชุ่มชื่นก้อไม่เชิง ทำให้ต้องซื้อมา ผลปรากฏว่า สีสวยมากเมื่อทาที่ปาก ยิ่งตอนที่ปากคล้ำสุดๆ(จากการแพ้แม็ค) ตัวนี้เอาอยู่ปกปิดสนิทประหนึ่งว่าโบกบีบีทับไป แต่มันแค่ลิปที่สำคัญมันทนมากทนกว่าแบรนด์ดังๆหลายแบรนด์อีก รักเลยยังหาตัวตายตัวแทนไม่ได้เลยนะตอนนี้

ความทนทาน : 5++ คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


Lime crime # coquette
ลิปสีนู๊ดที่ป่วยที่สุดในชีวิต คือทาแล้วปากลอยมาก เอาไว้ทาวันที่จะเก๋จริงๆ ซึงบ่อยครั้งใช้แตะๆแทนคอนซิลเลอร์ปากเลย เพราะมันสีอ่อนมากและทนมากกกกเช่นกัน เนื้อค่อนข้างชุ่มชื่น แพ็คเกจก็กระชากตังในกระเป๋ามาก 

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน


M.A.C Lustre #cute-ster
เป็นตัวที่ไม่ชอบที่สุดในกรุ เพราะแพ้รุนแรงมาก ถึงขั้นปากแตกเลือดออกซิบๆ อาจจะเป็นเพราะแพ้เนื้อลิปรุ่นนี้ แต่สีน่ารักมากมีชิมเมอร์เล็กๆใสๆ ทาวันที่ต้องการแอ๊บเด็กได้สบายๆมาก ทนทานจริงจังมากคะ แม้ขนาดชิมเมอร์ยังล้างยาก ต้องเช็ดครีนซิงหลายรอบมากๆ ไม่งั้นวันรุ่งขึ้นปากเยิน


ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 1 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


Revlon matte lipstick #008 cocoa craving
ลิปเนื้อแมทสีน้ำตาลเกือบเข้ม ที่สีสวยมาก ทาแล้วดูลึกลับเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทนทานมากทีเดียวสำหรับรุ่นนี้ ขนาดเป็นเนื้อแมทยังไม่ทำให้ปากแห้งแตกแม้แต่น้อย ถือว่าเรฟลอนทำตัวนี้ออกมาได้ดีมากๆ แถมซื้อตอนโปรของบูท มันถูกมากจนต้องสอย

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน

ถ้าให้เลือก 1 ตัวที่เป็น must have item ต้องยกให้ Too cool for school #glam rock 02 เลยคะ


กลุ่มที่สอง โทนชมพู
ลิปสติกในโทนนี้เอมีน้อยมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับลิปสติกสีชมพูเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยลงทุนกับสีโทนนี้มากนัก


NYX #595 strawberry milk
ลิปสติกสีนมเย็นที่สีน่ารักมากๆ (ถ้าคนขาวทา) ทาแล้วเกิดมาก เพราะมันช่างตัดกับสีผิวมาก ทาเดี่ยวๆไม่รอดเลยคะสีนี้ต้องตามด้วยกลอส หรือทาแบบไล่สีเข้มไปอ่อนนี่สวยใช้ได้เลย แต่ไม่ทนเอามากๆ และเนื้อลิปมันครีมมี่เกินไป ทาแล้วเหมือนพึ่งกินหมูกะทะมา มันเยิ้มเลย แต่ก็ 100 บาท เอาไว้ทาถ่ายรูปก็ถือว่าโอเคนะคะ แต่ให้ทาไปงานหรือไปข้างนอกคงไม่ไหวสำหรับตัวนี้ มันเยิ้มเกินไปจิงๆ แต่เหมาะมากกับการผสมสีกับลิปตัวอื่น

ความทนทาน : 1 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 2.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 2 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


Channel #17 emotion
ตัวนี้เป็นของขวัญรับปริญญาจากเพื่อนรักค่ะ แต่เป็นคนไปเลือกสีเองและใช้ตัวนี้ทาวันรับจริงด้วย ถ่ายรูปออกมาผู้ดีมาก (ของแพงมันดีเช่นนี้เอง) สีสวยมากคะ ดูสุภาพเนื้อชุ่มชื่นนะ แต่ทนมากๆ ทาแค่รอบเดียว 2 ทุ่มออกจากหอประชุมมันยังอยู่ และแพ็คเกจดูดีสมราคา แถมเป็นระบบกดใช้ง่ายดีคะ

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 3 คะแนน
Etude my lips #04
ลิปสติกสีชมพูหวานอีกตัวที่หยิบมาใช้บ่อยเหมือนกัน สีกำลังดีเหมาะมากในวันที่อยากแอ๊บเป็นสาวหวานเจี๊ยบ ส่วนเรื่องความทน เนื้อ เมื่อเทียบกับราคานี่เกินคุ้มคะ
ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 5+++ คะแนน


Lime crime #Great Pink Planet
ลิปสีนมเย็นอีกแท่งหนึ่งที่กลบสีปากได้สนิทมาก และทาแล้วเกิดมากๆเพราะสีลิปพุ่งมาก ทนทานมาก เนื้อกำลังดี และที่สำคัญไม่ทำให้แพ้เลย

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน
ถ้าให้เลือก 1 ตัวที่เป็น must have item ของกลุ่มนี้ ต้องยกให้ Channel #17 emotion เลยคะ

 กลุ่มที่สาม สีโทนชมพูตุ่นๆ-ชมพูน้ำตาล
 
 เป็นโทนที่รู้สึกว่าเวลาใช้แล้วตัวเองอายุเข้าเลข3 เพราะด้วยสีที่ดูเป็นผู้ใหญ่บวกกับหน้าไทยๆแบบเราแล้ว หน้าใกล้30 เลยคะ อิอิ


etude my lips #08
ลิปสติกสีชมพูตุ่นแท่งนี้ปกติแล้วจะทาแทนทินท์คะ เพราะสีมันดูชมพูหม่น เหมาะมากเวลาทากับลิปสีนู๊ดไม่ให้หน้าดูป่วยเกิน ติดทนโอเคเลยคะ และราคาน่าคบหาด้วย

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 5+++ คะแนน


red earth  #PK081
เป็นลิปตัวที่สอยมาแบบงงๆ ว่าจะชอบดีหรือไม่ชอบดี แต่มีอยู่ช่วงนึงทาตัวนี้บ่อยมาก ค่อนข้างชอบตัวเนื้อมันนะคะ ไม่แห้งเกินแต่ชุ่มชื่นดี สีตอนดูจากแท่งดูตุ่นๆประหลาด พอทาออกมาเป็นชมพูตุ่นนิดๆ (แบบว่างงคะ) ส่วนความทนก็เฉยๆคะ ไม่ได้วิเศษกว่าตัวอื่น กินน้ำก็เริ่มสีจางแล้ว แต่ข้อเสียคือตัวนี้ทาเยอะแล้วเป็นคราบคะ

ความทนทาน : 3 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4 คะแนน
แพ็คเกจ : 3.5 คะแนน
ราคา : 3.5 คะแนน


L.A. girl #miss&tell
ในช่วงที่กำลังหาลิปมาทำฮาวทูช็อคโกแลต ก็ไปถูกใจกับตัวนี้เข้า เพราะสีน้ำตาลมากๆ แถมพอทาแล้วรู้สึก(+คิดไปเอง) ว่าดูหน้าขาวขึ้น กลายเป็นสาวลึกลับขึ้นมาทันสี ชอบเลยคะ ราคาก็แค่สามร้อยนิด ทนใช้ได้นะคะตัวนี้กินบราวนี่ไปหลายชิ้นอยู่ตอนถ่ายฮาวทู สีก็ยังอยู่เลยคะ แต่แพ็คเกจธรรมดาไปนิด ไม่เหมือนแท่งสามร้อยเลย

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 2.5 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน


OCC lip tar # memento
ลิปสติกที่ซื้อตามกระแส และก็หลงรักอีกเช่นเคย เพราะด้วยเนื้อที่เหลวทำให้เราสามารถคุมความแห้งความเนิ้มของมันได้ ถ้าอยากได้เนื้อแมทก้อทาบางๆเม้มกระดาษหนึ่งครั้ง ได้ออกมากำลังดี ถ้าอยากแต่แบบเยิ้มๆก้อทาเยอะหน่อย แต่ราคาอาจแลดูสูงไปนิดแต่ถ้าเทียบปริมาณการใช้แล้วถือว่าถูกมากๆๆ เพราะทานิดเดียวสีก็ติดแล้ว แถมทนมากจริงๆ

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


M.A.C cremesheen #modesty
เป็นลิปเนื้อแมคที่ใช้แล้วไม่แพ้ ไชโย (แต่แอบแห้งนิดหน่อย) สีในแท่งดูตุ่นมาก แต่พอทาออกมาออกน้ำตาลๆอมพู ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เรื่องความทนต้องยกให้เค้ากินข้าวสามมือยังอยู่ครบองค์อยู่เลยคะ

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน
ถ้าให้เลือก 1 ตัวที่เป็น must have item ของกลุ่มนี้ ต้องยกให้ OCC lip tar # memento เลยคะ


กลุ่มที่สี่ โทนชมพูส้ม - ส้ม
เป็นโทนสีที่มีเยอะที่สุดในกรุก็ว่าได้  เพราะค้นพบว่าโทนสีนี้ทาแล้วเกิดสุดไม่ว่าจะส้มไหนมาก็แต่งได้ไม่เคยดับเลย อาจจะเป็นเพราะมันเข้ากับสีผิว


etude my lips #09
ลิปสีส้มนมที่ทาดีๆก็สวย แต่ก็ดับได้ง่าย เพราะมันสว่างกว่าผิวพอสมควร อาจจะเหมาะกับสาวผิวเหลืองขาว แต่ผิวแทนๆ ช่วงไหนแทนมาก ก็ต้องพึงระวังไว้นิดหน่อย แต่เนื้อและความทนไม่ต้องพูดถึง (เหมือนกับตัวก่อนหน้านี้ในรุ่นนี้คะ)

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 5+++ คะแนน


etude my lips #12
ลิปสีส้มอมชมพูที่เนื้อและความทนไม่ต้องพูดถึง (เหมือนกับตัวก่อนหน้านี้ในรุ่นนี้คะ) แต่สีนี้ทายากนิดนึง(ไม่รู้ทำไม) รู้สึกเหมือนเนื้อมันชุมชื่นกว่าตัวอื่นๆ และสีนี้ทาทีไรเป็นคราบทุกครั้ง

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4 คะแนน
แพ็คเกจ : 4.5 คะแนน
ราคา : 5+++ คะแนน


NYX # indian pink
ลิปเนื้อครีมสีส้มอมชมพูมีประกายสีทอง เนื้อชุ่มชื่นมากๆๆๆจนไม่ชอบมากๆ ต้องทาด้วยแปรงเท่านั้นถึงจะออกมาดูดี ส่วนตัวใช้ยากเพราะไม่พกแปรงไปไหนด้วย เหมาะที่จะเอาไว้ถ่ายรูปอย่างเดียวและไม่ทนเอาเสียเลย แต่ราคาถือว่าถูกมาก

ความทนทาน : 1 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 2.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 2 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


M.A.C cremesheen #ravishing
ลิปอีกแท่งของค่ายนี้ที่ทำให้ชอบมาก เพราะสีที่สวยมาก สวยจริงจัง เนื้อที่กำลังดี และที่สำคัญไม่แพ้ เป็นแท่งที่เข้ากับทุกลุคการแต่งตัวจะหวานจะเปรี้๊ยวจะซ่าส์ สีนี้เอาอยู่ทุกสถานการณ์ เป็นสีที่คุ้มค่ามากจริงๆคะ

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน


Lime crime #cosmopop
สีส้มปากป่วย อีกสีที่ใช้ยาก (แบรนด์นี้ทำแต่สีใช้ยาก) เหมาะมากกับแต่งหน้าไปปาร์ตี้ไม่แค่สื่อ เพราะทาชีวิตจริงค่อนข้างยาก เพราะผิวแทนทาสีนี้ไป อาจดูลอยได้ แต่เรื่องความทนชนะขาดจริงๆ จะดริ้งเข้าไปแค่ไหนก็ยังอยู่ตลอดคืน

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน


YSL pouge pur couture #24
ลิปเนื้อบางมีชิมเมอร์เล็กๆ ทาในวันง่ายๆสบายๆกำลังดี หรือจะทาทับแทนกลอสก็ได้นะคะ เพราะมันวาวๆวิ้งๆน่ารักมาก แต่สำหรับสาวผิวแทนที่มีปากสีเข้มมากๆสีนี้คงไม่เวิร์ค เพราะมันไม่ปกปิดเลย และยังทำให้ลอยคล้ำเด่นขึ้นมาด้วย

ความทนทาน : 3.5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


Etude real LED pixel lipstick #6
อีกสีในรุ่นนี้ที่ทาแล้วเป็นส้มที่กลืนไปกับผิวมาก เหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย ทนในระดับนึง ส่วนเรื่องเนื้อและแพ็คเกจไม่ต่างอะไรกับอีกสีในรุ่นนี้ที่รีวิวไปก่อนหน้าในกลุ่มสีโทนนู๊ดคะ

ความทนทาน : 3.5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


etude VIP girl #OR207 
ลิปสีส้มแปร๊ด ที่สอยเพราะพรีเว็นเตอร์ (ซานดาร่า)ล้วน เนื้อรุ่นนี้ส่วนตัวชอบมากกว่ารุ่น LED ถึงจะไม่ทนเท่าแต่เม็ดสีชัดเจน และทาง่ายกว่า เพราะมันไม่ครีมมี่เกินไป และแพ็คเกจดูดีน่ารักทีเดียว

ความทนทาน : 3 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


etude VIP girl #OR205
ลิปสีส้มอีกแท่งจากค่ายนี้ ที่ทำออกมาโทนส้มนู๊ด แต่สีนี้แอบทายากนิดนึง เพราะด้วยสีที่อ่อนทำให้กลบสีปากไม่ค่อยมิด แพ็คเกจดูดีน่ารักเหมือนเคย...เสียตังให้แบรนด์นี้ก็ตรงนี้แหละ

ความทนทาน : 3 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


OCC lip tar #beta
สีส้มของแบรนด์นี้ที่ใครๆก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ข้อดีทุกคนก็ทราบกันอยู่แล้ว แต่สำหรับสีนี้เวลาไปผสมกับสีอื่นแล้วเกิดสีใหม่ที่โดนมาก ได้ลิปสีโทนส้มที่ออกมาสวยเสมอ

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน
ถ้าให้เลือก 1 ตัวที่เป็น must have item ของกลุ่มนี้ ต้องยกให้ M.A.C cremesheen #ravishing เลยคะ


กลุ่มที่ห้า สีโทนแดง-ม่วง-บานเย็น
เป็นโทนสีที่ใช้ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ ชอบใช้เวลาชีวิตเซงๆเบื่อๆกับการแต่งหน้าซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ก็ปาร์ตี้คะ


YSL rouge pur couture #13
ลิปสีแดงส้มที่พ่อซื้อให้เป็นของฝาก (คือซื้อผิดสีมา) ตอนเห็นตกใจมาก เพราะมันโอ้ทาแล้วดับชัวๆ ผลปรากฏว่าทาออกมาดูขาวขึ้น ไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิด เนื้อลิปนุ่มปากมาก และปากเด่นมาแต่ไกล สีชัดทนทานมากๆทีเดียวสำหรับสีนี้ ที่ชอบอีกอย่างคือกินน้ำลิปไม่ติดแก้วนี่สิ แต่ราคาไม่เบาเลย

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


Revlon Matte lipstick #009 Fabulous fig
สีม่วงอมน้ำตาล ที่พอทากับปากแล้วออกน้ำตาลซะมากกว่า แต่ด้วยเนื้อแมทที่กำลังดี ความทนก็ดอเคเพมื่อเทียบกับราคาถือว่ารักเลยสีนี้ ทาบ่อยสุดในกลุ่มนี้เลย

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 4.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 4 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


Fasio #RO 632
เป็นอีกแท่งที่ได้มางงๆ เพราะซื้อแท่งนี้เพื่อให้ครบยอดเพื่อรับส่วนลด ซึ่งเนื้อลิบของแบรนด์นี้ออกแนวชุ่มชื่น ทางแล้วปากดูเยิ้มๆ แถมมีชิมเมอร์อีก ซึ่งไม่ชอบเลย แต่สีนี้เห็นครั้งแรกแล้วแปลกดี ที่แท่งเป็นสีออกม่วงตุ่นๆชิมเมอร์วาว แต่พอทาได้ออกม่วงน้ำตาลวาวซะ เอาไว้ทาปาร์ตี้ หรือทำฮาวทูก็เก๋ดี แต่ไม่ค่อยทนเลย ราคาราว200กว่าๆ

ความทนทาน : 2 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3 คะแนน
แพ็คเกจ : 3.5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


NYX #hero
ลิปสีแดงเลือดนก ถือว่าเป็นตัวเดียวใน NYX ที่ชอบ เพราะสีแดงโทนนี้ทาแล้วเกิดมากดูแพง ดูลึกลับ สีนี้พิกเม้นท์ชัดเจนมากแต่ด้วยเนื้อที่นุ่มเกินไปต้องทาอย่างระวัง แทบจะต้องกลั้นหายใจเวลาทาก็ว่าได้ โดยส่วนตัวทาตัวนี้แล้วจะเม็มทิชชูให้เนื้อลิปออกไปเกือบหมด จะได้เนื้อแมทๆ และติดทั้งวัน

ความทนทาน : 4 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3 คะแนน
แพ็คเกจ : 2 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


YSL rouge volupte #provocative pink 10
ลิปสีบานเย็นสุดปรี๊ดที่ได้เป็นของฝากจากพ่อเช่นเคย สีสดกระชากใจมาก และประทับใจตะลึกับเนื้อลิปที่นุ่มมากกกกจนไม่กล้าทาจากแท่งกลัวมันเละเลยทีเดียว สีชัดเจนแน่น และทนทานมาก แต่ราคาก็สูงเช่นกัน

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 4.5 คะแนน
ถ้าให้เลือก 1 ตัวที่เป็น must have item ของกลุ่มนี้ ต้องยกให้ Revlon #009 Fabulous fig เลยคะ


กลุ่มสุดท้าย สีโทนแปลก และพาเลท
สีโทนแปลกเป็นสีที่เอาไว้ผสมกับสีอื่น หรือเอาไว้ทำลุคปาร์ตี้สนุกๆเท่านั้นชีวิตจริงธรรมดาคงไม่แรงขนาดนั้น ส่วนพาเลทตัวนี้คุ้มจริงๆ


Janet lip-fluorecent #yellow
แน่นอนค่ะ ลิปสีเหลืองสะท้อนแรงในแบล็คไลท์ เอาไว้จัดปาร์ตี้ฟลูมูน เด่นไม่แพ้ใคร เนื้อลิปธรรมดาๆทาแล้วออกใสๆ (เค้าเน้นใช้ที่มืดอะเนอะ) แต่เวลาทารู้สึกได้ถึงสารเคมี (แอบคิดเอง) ซึ่งตัวนี้ทนมากกกจริงๆคะ เช็ดนานมากกว่าจะหมด แต่แพ็คเกจแย่มาก เหมือนของเล่นเด็กอัน 20 บาทเลย
(ในแบล็คไลท์เป็นเช่นนี้)

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 2.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 0.5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


Janet lip-fluorecent #purple
ลิปสีม่วงสะท้อนแรงในแบล็คไลท์ ทุกอย่างไม่ต่างจากสีเหลืองก่อนหน้านี้ แต่ดีตรงที่สีนี้ทาในชีวิตจริงได้ สีออกม่วงๆบานเย็น แรงดีคะ เหมาะนะกับสาวชอบปาร์ตี้
(ในแบล็คไลท์เป็นเช่นนี้)

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 2.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 0.5 คะแนน
ราคา : 4 คะแนน


OCC lip tar #FEATHERED
 ตัวนี้ซื้อมาเป็นเทสเตอร์คะ ลองซื้อมาเล่นดูสรุปว่าชอบในคุณประโยชน์นะค่ะ ผสมสีกับลิปสีเข้มออกมาได้สวยด้วยแถมยังรู้สึกว่าทำให้ลิปสติกสีนั้นทนขึ้นกว่าเดิมอีกนะค่ะ แต่ราคาเทสเตอร์ก็แพงนะซื้อไซส์จริงไปเลยคุ้มกว่า

ความทนทาน : 5 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 5 คะแนน
แพ็คเกจ : 2 คะแนน (ตลับเทสเตอร์)
ราคา : 2.5 คะแนน

ต่อไปเป็นสีจากพาเลท (ไล่จากช่อง 1-4 จากทางซ้าย จากแถวบนลงล่าง)


พาเลทนี้เป็นของ Etude welcome to wonder lip land ประกอบด้วยลิปสติก 12 สี กลอส 6 สี ซื้อเพราะความคุ้ม ซึ่งมันเป็นลิมิเต็ดด้วย เนื้อลิปมีหลายแบบนะคะเท่าที่ใช้ แต่โดยรวมใกล้เคียงกับรุ่น VIP เลยคะ แต่ทาแล้วสีไม่ค่อยตรงกับที่เห็นเท่าไหร่

ความทนทาน : 3 คะแนน
เนื้อลิปสติก : 3.5 คะแนน
แพ็คเกจ : 5 คะแนน
ราคา : 5 คะแนน


ปล. การให้คะแนนเกิดจากความชอบส่วนตัวในผลิตภัณฑ์แต่ละตัวของเอเองนะค่ะ อาจจะไม่ตรงใจกับหลายๆคนต้องขออภัยด้วยคะ
(บางภาพอาจเบลอบ้างต้องขอภัยนะค่ะ)


 ขอบคุณสำหรับการชมรีวิวอันยาวยืดนี้นะค่ะ